นิทาน

สำหรับคนที่มีลูกมีหลานเชื่อได้เลยว่าหลายคนก็คงจะผ่านจุดหนึ่งมาอย่างแน่นอน นั่นก็คือการเล่านิทานให้ลูกให้หลานฟังมันเป็นสิ่งที่เป็นการสร้างพัฒนาการ และสร้างการเรียนรู้ให้กับเด็กได้เป็นอย่างดีรวมถึงเป็นการสร้างความสนุกสนาน และความบันเทิงซึ่งมันเป็นจุดประสงค์หลักเลยก็ว่าได้ แต่ก็ยังมีจุดประสงค์อื่นอยู่ที่ใช้นิทานในการเรียนการสอนก็ได้ ซึ่งมันจะเป็นตัวช่วยที่ทำให้เด็กนั้นมีความสนใจ ซึ่งบอกว่าจุดประสงค์ในแต่ละคนมันแตกต่างกัน แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว นิทาน นั้นก็ถูกใช้เพื่อความสนุกสนานในยามว่าง หรือก็มีพ่อแม่หลายคนที่เอาไปเล่าให้ลูกฟังก่อนนอน ซึ่งมันจะเป็นตัวที่ช่วยทำให้เด็กนั้นหลับง่ายหรือนิทานมันเอามาถูกใช้ในการสั่งสอน โดยเป็นการเล่านิทานเล่าว่าสิ่งต่างๆมันมีอะไรผิดอะไรถูก และมันก็เป็นการสอนที่ดีเป็นอีกหนึ่งรูปแบบของการสอนเลยก็ว่าได้ แล้วก็จะทำให้เด็กนั้นได้เรียนรู้ในสิ่งต่างๆ มันมีอยู่หลากหลายมันขึ้นอยู่กับว่าคนที่เล่านิทานให้ฟังนั้น ต้องการที่จะให้มันสื่อถึงอะไรและเป็นอะไรนั่นเอง

ถ้าจะให้พูดถึงโอกาสในการเล่านิทานแล้วเราก็มันสามารถเกิดขึ้นได้ตลอด และอย่างหนึ่งต้องบอกเลยว่าการเล่านิทานนั้นมันถูกใช้มาตั้งแต่ในสมัยก่อนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นประเพณีต่างๆ หรือพิธีกรรมทางศาสนาก็ยังมีการเล่านิทานให้ฟังอย่างศาสนาพุทธของเรานั้น ก็ยังมีการเล่านิทานให้ฟังเลยเพื่อเป็นการสอนศาสนาในทางอ้อม ไม่ว่าจะกิจกรรมอะไรก็แล้วแต่ก็สามารถที่จะใช้มันเป็นคำสอน เพื่อสอดแทรกเนื้อหาที่มีความสำคัญเข้าไปได้นิทานไม่ได้ใช้แต่สอนเด็กเท่านั้น แต่ยังถูกใช้สอนในสิ่งต่างๆได้เป็นอย่างดีมันเป็นการสอดแทรกเนื้อหาที่มีความสำคัญเข้าไป เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และนึกคิดตามแล้วต้องบอกเลยว่านิทานนั้น มันก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจเพราะว่ามันก็เป็นสิ่งที่เป็นเรื่องเล่าเชื่อได้เลยว่า หลายคนนั้นถ้าพูดถึงเรื่องเล่าแล้วเราก็จะต้องให้ความสนใจอย่างแน่นอน ดังนั้นนิทานก็เป็นสิ่งที่สอนอะไรหลายๆอย่างกับทุกๆคนได้เป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน 

ประโยชน์ของ นิทาน

กล้าพูดได้เลยว่ามีหลายคนที่คิดว่านิทานมันไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลย แต่ถ้าให้พูดตามหลักวิชาการแล้วต้องบอกหรือว่านิทานนั้น เป็นสิ่งที่ช่วยทำให้เด็กนั้นมีการเจริญวัยหรือมีจินตนาการที่สูงมีความนึกคิดที่ไว เพราะว่าการฟังนิทานนั้นมันจะเป็นตัวช่วยทำให้สมองนั้นมีการทำงานอยู่ตลอดเวลา และจะทำให้เด็กนั้นมีความคิดและมีการจดจ่อชอบฟังเรื่องราว มันจะเป็นการฝึกสมาธิไปด้วยในตัวเพราะว่านิทานมันไม่ได้เป็นสิ่งที่น่าเบื่อเสมอไป เพราะว่าในปัจจุบันนิทานมันถูกสอดแทรกเนื้อหาให้ความรู้ในรูปแบบต่างๆ พร้อมทั้งยังสนุกสนานและยังมีสร้างความตื่นเต้น ดังนั้นต้องบอกหรือว่านิทานเป็นสื่อที่จะเป็นตัวช่วยทำให้เด็กสามารถเรียนรู้ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ขอบอกเลยว่าอย่าคิดว่ามันไม่มีประโยชน์มันจะเป็นตัวช่วยในเรื่องพัฒนาการได้เป็นอย่างดีมันเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่จะเป็นตัวทำให้พัฒนาการของลูกเติบโตได้อย่างสมบูรณ์
  • จินตนาการ การเล่านิทานนั้นส่วนใหญ่มักจะมีการเปล่งเสียงพูดออกมาในรูปแบบต่างๆ มีเบาบ้างซึ่งแรงบ้างอาจจะเป็นตามเนื้อหาหรือทำให้มันเกิดความน่าสนใจ และทำให้เด็กได้ใช้จินตนาการเพื่อเป็นการเชื่อมโยงรูปภาพกับจินตนาการ และเสียงเข้าด้วยกันและจะทำให้เด็กมีการพัฒนาทางสมองเป็นอย่างดี
  • ช่างคิดช่างสังเกต มันจะเป็นตัวช่วยที่ทำให้มีการปลูกฝังสิ่งดีๆ เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วนิทานสำหรับเด็กที่จะเป็นตัวช่วยในการพัฒนา จะสอนในเรื่องต่างๆที่ไม่ว่าจะเป็นความมั่นใจความกล้าแสดงออก หรือการแสดงความคิดเห็นในเชิงสร้างสรรค์ มันเป็นตัวช่วยที่ดีอย่างแน่นอนสำหรับเด็ก

  • สมาธิ ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่เชื่อได้เลยว่าถ้าได้นั่งจดจ่ออะไร แล้วเราก็มักจะเกิดสมาธิอย่างแน่นอนดังนั้นการฟังนิทาน มันจะทำให้เกิดความรู้สึกอยากจะฟังให้ความสนใจจนทำให้มีสมาธิ และมันก็เป็นการฝึกสมาธิไปด้วยในตัว เพราะเราจดจ่อกับอะไรอย่างใดอย่างหนึ่งจนเสร็จนั่นเอง

  • ด้านภาษา การฟังจะเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับเด็กมาก มันจะเป็นตัวช่วยที่ทำให้เด็กนั้นได้เรียนรู้ในคำพูด หรือประโยคซึ่งมันจะเป็นตัวสื่อความหมายและ มันจะทำให้เด็กมีการเรียนรู้เรื่องทางด้านภาษาได้อย่างรวดเร็วและสามารถสื่อสารได้เป็นอย่างดี มันเป็นตัวช่วยในการฝึกทักษะในการฟังและพูด

มันมีประโยชน์เชื่อได้เลยว่ามันจะไม่เกิดผลเสียอย่างแน่นอน นิทานแต่ละเรื่องมันถูกสร้างมาเป็นอย่างนี้เพื่อให้เด็กนั้นได้เรียนรู้ และพัฒนาศักยภาพของตัวเองและเชื่อได้เลยว่าคุณพ่อคุณแม่ที่ใช้นิทานกับลูกของตัวเองนั้น มันจะเป็นตัวช่วยในการพัฒนาทางด้านต่างๆได้เป็นอย่างดีแน่นอน แต่บางครั้งการเล่านิทานแล้วอาจจะเกิดปัญหาที่ว่าลูกไม่ให้การตอบสนองที่ดีเท่าไหร่นัก จนอาจจะทำให้เกิดการสะท้อนของพ่อแม่ได้เพราะคิดว่ามันไม่ได้ผล แต่จริงๆแล้วเด็กได้ฟังมันก็เป็นสิ่งที่ดีแล้วแต่อย่างหนึ่งเลยก็คือ การที่เด็กขาดความสนใจอาจจะเกิดความน่าสนใจในการเล่าเรื่องของคุณพ่อคุณแม่ก็ได้ ดังนั้นจะต้องเปลี่ยนรูปแบบในการใช้เทคนิคในการเล่า เพื่อให้มันมีความน่าสนใจและเป็นตัวกระตุ้นเด็กได้เป็นอย่างดี

เทคนิคการเล่าให้น่าสนใจ

นิทาน
  • บางครั้งการเล่าเรื่องก็ควรที่จะใช้น้ำเสียงที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นเสียงดังเสียงที่ชัดเจนอย่างเช่นถ้าคุณลองเล่านิทานที่เป็นสัตว์ถ้าคุณใช้เสียงกระต่ายกับเสียงสิงโตที่เหมือนกัน มันก็ไม่น่าสนใจดังนั้นคุณอาจจะใช้เป็นเสียงที่ใหญ่หน่อยที่เป็นสิงโต เพื่อเป็นการทำให้เด็กนั้นให้ความสนใจ
  • ต้องมีท่าทางสักหน่อย เพื่อได้ทำให้เด็กนั้นรู้สึกน่าสนใจและเป็นการดึงดูดได้เป็นอย่างดี เชื่อได้เลยว่าการมีออกท่าทางเพื่อให้เข้ากับเนื้อหา มันจะเป็นการสร้างความสนุกสนานอย่างแน่นอน เด็กจะให้ความสนใจและจะหันมาร่วมสนุกด้วย
  • เล่าให้จบเป็นเรื่องเรื่องไป เพราะว่าคุณลองคิดดูสิว่าเหมือนเวลาคุณดูหนังสักเรื่องหนึ่ง แล้วมีโฆษณามาขั้นตอนถึงเวลากำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม มันเป็นตัวที่น่ารำคาญและเป็นตัวสร้างสิ่งที่เรียกว่าน่าเบื่อหน่ายได้เป็นอย่างดี ดังนั้นการเล่านิทานก็เหมือนกันไม่ต่างจากการดูหนังเลย ไม่ควรจะเอาอะไรมาค้ำควรเล่าให้จบ
  • เนื้อหาไม่ควรยาวเกินไป อย่างเช่นไม่น่าเกิน 5 นาทีก็เพื่อที่จะทำให้เด็กนั้นให้ความสนใจอยู่ตลอดเวลา และมีสมาธิเพราะว่าบางครั้งเด็กส่วนใหญ่แล้ว มักจะมีช่วงที่ต้องบอกเลยว่าเป็นสมาธิสั้น ดังนั้นการใช้นิทานเรื่องยาวๆอาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความเบื่อหน่าย และไม่อยากจะฟังอีกต่อไป